อุปกรณ์ป้องกันเท้า
รองเท้าเซฟตี้ รองเท้านิรภัยหัวเหล็ก ราคาพิเศษ safety shoes คุณภาพดี
รองเท้าเซฟตี้ หรือ รองเท้านิรภัย (Safety shoes) คือ หนึ่งในอุปกรณ์เซฟตี้ที่มีไว้เพื่อปกป้องกันความปลอดภัยให้แก่สวมใส่ สามารถช่วยปกป้องเท้าของคุณให้ปลอดภัยจากของมีคม ไฟฟ้า สารเคมี ความร้อน และอุบัติเหตุอื่นๆ รองเท้าเซฟตี้ของเราเป็นอุปกรณ์เซฟตี้ ที่มีคุณภาพดีเยี่ยม ได้มาตรฐานระดับสากล
รองเท้าเซฟตี้ราคาพิเศษ คุณภาพดี พร้อมจัดส่งและให้คำปรึกษา
บริษัท ซานโต ไฟร์ โปรดักท์ จำกัด เราเป็นผู้จำหน่ายรองเท้าเซฟตี้ ที่มีคุณภาพ รูปทรงสวยงาม และได้รับการรองมาตรฐาน ในราคาพิเศษ ทั่วไปของรองเท้าเซฟตี้แล้วราคาจะเริ่มตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน ยิ่งรองเท้าสามารถปกป้องอันตรายได้มากเท่าไหร่ ราคาจะยิ่งมีราคาสูงขึ้นตามคุณสมบัติและวัสดุที่นำมาทำรองเท้าคู่นั้นๆ
นอกจากรองบูทเท้าเซฟตี้แล้ว เรายังเป็นผู้นำในการจำหน่ายถังดับเพลิง และอุปกรณ์เซฟตี้ ไม่ว่าจะเป็น ถุงมือเซฟตี้ หมวกเซฟตี้ ชุดป้องกันสารเคมี อุปกรณ์กันตก อุปกรณ์ป้องกันเสียง และแว่นเซฟตี้ในราคาพิเศษ เรียกได้ว่าซื้อแล้วครบจบในที่เดียว สำหรับผู้ที่สนใจรองเท้าเซฟตี้ ถังดับเพลิง และอุปกรณ์เซฟตี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม เรามีทีมงานที่มีความรู้เกี่ยวกับสินค้าคอยให้คำปรึกษาคุณอยู่ตลอดเวลา
รองเท้าเซฟตี้หรือรองเท้านิรภัย คืออะไร สำคัญอย่างไร
รองเท้าเซฟตี้นับว่าเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญอย่างหนึ่งที่จำเป็นในหลายๆ อาชีพ ไม่ว่าจะเป็น ช่างไฟฟ้า นักผจญเพลิง วิศวกร ผู้ที่ทำงานในโรงงาน หรือผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เสี่ยงอันตรายโดยเฉพาะ เนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่หรือการทำงานในบางครั้งสามารถเกิดอุบัติเหตุได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นจากของมีคม กระแสไฟฟ้า สารเคมี และของหนักหล่นทับ การสวมรองเท้าเซฟตี้สามารถช่วยลดความรุนแรงและอาการบาดเจ็บที่อาจจะเกิดขึ้นได้ รองเท้าเซฟตี้จึงเปรียบเสมือนเกราะป้องกันชั้นแรกจากอันตรายจากภายนอก ตัวอย่างผลิตภัณฑ์รองเท้าเซฟตี้ รุ่นขายดี ยอดนิยม สินค้าพร้อมส่งทันที
รองเท้าเซฟตี้ Asguard รุ่น EDGA สีดำ หุ้มส้น รองเท้าเซฟตี้ผลิตจากวัสดุคุณภาพดี หนังแท้ แข็งแรง ทนทาน
- น้ำหนักเบา เคลื่อนที่ได้อย่างสะดวก
- พื้นรองเท้าเซฟตี้เป็น Polyurethane ป้องกันการลื่น น้ำมัน ไฟฟ้าสถิตย์ และสารเคมี
- หัวเหล็กป้องกันการกระแทก 200 จูล
- พื้นเหล็กป้องกันการเจาะทะลุ
- พื้นรองด้านในทำจาก EVA และ Sandwich Lining ให้ความรู้สึกตนใส่นุ่ม เบา และเป็นรองเท้าเซฟตี้ที่สวมใส่สบาย
- ได้รับรองมาตรฐาน S1P CE EN ISO 20345:2011
- รองเท้าเซฟตี้ TS-3013R BLACkรองเท้าเซฟตี้หนังแท้คุณภาพดี ใช้เทคโนโลยีการผลิตจากประเทศญี่ปุ่น
- ความหนาขอพื้นในที่บางที่สุดรวมดอกยางประมาณ 8 มม.
- หัวเหล็กป้องกันการกระแทก 200 จูล
- หัวเหล็กใหญ่และกว้างกว่าปกติ ช่วยลดปัญหาเรื่องหัวเหล็กบีบเท้า
- พื้นรองเท้ามีความยืดหยุ่นและทนทานเป็นพิเศษ
- ออกแบบขนาดและรูปทรงเท้าให้เหมาะกับคนเอเชีย
ประโยชน์ของรองเท้าเซฟตี้ ช่วยปกป้องระหว่างการทำงานอะไรได้บ้าง
ในความเป็นจริงแล้วรองเท้าเซฟตี้นับว่าเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญและมีประโยชน์อย่างมาก เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันเท้าของคุณจากอันตรายทั้งหลาย ในขณะที่ปฏิบัติหน้าที่ โดยประโยชน์ของรองเท้าเซฟตี้ มีดังนี้
รองเท้าเซฟตี้กันไฟฟ้า
รองเท้าเซฟตี้ที่ได้มาตรฐานส่วนใหญ่ต้องผลิตมาจากหนังแท้หรือยางที่ไม่นำกระแสไฟฟ้า พื้นของรองเท้าเซฟตี้ต้องเป็นฉนวนกันไฟฟ้า และมีความหนามากพอเพื่อป้องกันกันอันตรายจากของมีคม ป้องกันการเจาะทะลุได้ รองเท้าหนังเซฟตี้บางรุ่นอาจจะเป็นรองเท้าที่ออกแบบมาสำหรับโรงงานหรืออาชีพที่ต้องทำงานเกี่ยวข้องกับกระแสไฟฟ้าโดยเฉพาะ เช่น ช่างไฟฟ้า
รองเท้าเซฟตี้กันสารเคมี
รองเท้าเซฟตี้ที่ดีควรสามารถป้องกันของเหลว หรือสารเคมีได้ เนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่บางอย่าง เช่น นักผจญเพลิงที่ต้องเข้าไปดับเพลิงในสถานที่ที่เกิดเพลิงไหม้ บางครั้งอาจจะเกิดเหตุการณ์ของเหลวหรือสารเคมีในโรงงานรั่วไหล การที่รองเท้าสามารถกันสารเคมีได้ จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ได้
รองเท้าเซฟตี้กันลื่น
ในโรงงานหรือบางสถานที่ที่ปฏิบัติหน้าที่อาจจะเปียกชื้นอยู่ตลอดเวลา นั้นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมรองเท้าเซฟตี้ต้องสามารถกันลื่นได้ดี โดยส่วนใหญ่ของรองเท้าเซฟตี้ที่ดีนอกจากจะมีพื้นรองเท้าหนาแล้ว ดอกยางต้องลึกเพื่อที่จะสามารถยึดเกาะพื้นผิวได้ดีกว่ารองเท้าทั่วไป
รองเท้าเซฟตี้กระแทก
รองเท้าเซฟตี้จำเป็นต้องสามารถกันกระแทกหรือรองรับแรงกระแทกได้ โดยส่วนหัวของรองเท้าเซฟตี้ต้องทำจากเหล็กหรือโลหะที่มีความหนักและแข็ง เพื่อช่วยรองรับแรงกระแทกและแรงบีบได้ ป้องกันเท้าและนิ้วเท้าจากอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การโดนของหนักหล่นใส่ หรือ การกระแทกจากของหนัก
รองเท้าเซฟตี้กันบาด
อย่างสุดท้ายที่รองเท้าเซฟตี้ต้องสามารถป้องกันได้ คือ การป้องกันเท้าจากของมีคม โดยรองเท้าเซฟตี้จำเป็นที่จะต้องมีความหนาเพื่อป้องกันการเจาะทะลุจากตะปู เศษแก้ว และไม้ได้ โดยในบางรุ่นของรองเท้าเซฟตี้ที่พื้นรองเท้าอาจจะเสริมด้วยแผ่นเหล็กอีกชั้น เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผู้สวมใส่
การเลือกซื้อรองเท้าเซฟตี้ให้เหมาะสม
สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อรองเท้าเซฟตี้ ควรเลือกรองเท้าให้เหมาะสมกับการใช้งาน เพื่อความคุ้มค่าและความปลอดภัยของผู้สวมใส่ โดยวิธีการเลือกซื้อรองเท้าเซฟตี้ให้เหมาะสม มีดังนี้
เลือกประเภทรองเท้าเซฟตี้ให้เหมาะกับงาน
การเลือกประเภทของรองเท้าเซฟตี้ให้เหมาะสมกับงาน ความจริงแล้วนับเป็นเรื่องที่สำคัญอันดับต้นๆ ของการตัดสินใจซื้อรองเท้าเซฟตี้สักคู่เลยครับ เพราะงานแต่ละประเภทก็มีรองเท้าแต่ละรุ่นแตกต่างกันออกไป ยกตัวอย่าง เช่น อาชีพนักผจญเพลิงจำเป็นต้องเลือกรองเท้าที่สามารถกันความร้อนได้ดี พื้นของรองเท้าเซฟตี้ต้องมีความหนาเพื่อป้องกันการแทงทะลุของของมีคมได้ และหัวรองเท้าควรทำจากเหล็กที่สามารถรองรับแรงกระแทกจากของหล่นทับได้ การสวมรองเท้าเซฟตี้ที่เหมาะสมกับงานจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ที่สำคัญและเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้สวมใส่ทำให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างคล่องแคล่ว และมีประสิทธิภาพสูงสุด
เลือกขนาดรองเท้าเซฟตี้ให้เหมาะกับเท้า
ขนาดรองเท้าเป็นเรื่องสำคัญที่หลายคนอาจจะมองข้าม แต่ในความเป็นจริงแล้วการสวมรองเท้าเซฟตี้ที่ขนาดไม่พอดีในระหว่างปฏิบัติงานอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ เช่น สวมรองเท้าที่หลวมกว่าขนาดเท้าจริง รองเท้าสามารถหลุดระหว่างปฏิบัติงานและทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ นอกจากนี้การสวมรองเท้าที่มีขนาดคับจะทำให้ผู้สวมใส่รู้สึกเจ็บปวด เนื่องจากรองเท้าบีบ การเลือกขนาดรองเท้าเซฟตี้ที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มความมั่นใจและทำให้ผู้สวมใส่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่จำเป็นต้องคอยมากังวลว่ารองเท้าจะหลุดในขณะที่ปฏิบัติหน้าที่หรือไม่
เลือกรองเท้าเซฟตี้ที่ได้มาตรฐาน
รองเท้าเซฟตี้จำเป็นต้องได้รับการรับรองมาตรฐาน เนื่องจากงานและสถานที่ ที่จำเป็นต้องสวมรองเท้าเซฟตี้สามารถเกิดอุบัติเหตุได้ตลอดเวลา หากรองเท้าเซฟตี้ของคุณไม่ได้มาตรฐานตามที่กำหนดเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น อาจจะทำให้ให้เท้าของคุณได้รับบาดเจ็บและอาจจะถึงขั้นเลวร้ายจนพิการ โดยมาตรฐานของรองเท้าเซฟตี้มีทั้งหมด 2 รูปแบบ ได้แก่ มาตรฐานรองเท้านิรภัยยุโรป EN345 และ มาตรฐานรองเท้านิรภัย ANSIZ41.1 ในปัจจุบันมีรองเท้าเซฟตี้หลายรุ่น หลายยี่ห้อที่เป็นที่ได้การรับรองมาตรฐาน และนิยมในท้องตลาด ไม่ว่าจะเป็น SYNOS, SIMON (ซีม่อน) และ YAMADA ซึ่งรองเท้าเซฟตี้ทุกยี่ห้อจำเป็นต้องได้รับการรับรองมาตรฐานเท่านั้น
ข้อกำหนดของมาตรฐานรองเท้าเซฟตี้
รองเท้าเซฟตี้มาตรฐานยุโรป EN345
ข้อกำหนดของมาตรฐานยุโรป EN345 สำหรับรองเท้าเซฟตี้ มีดังนี้
- หัวรองเท้าสามารถป้องกันแรงกระแทกได้สูงถึง 200 จูล
- พื้นรองเท้าสามารถทนความร้อน ต้านทานการขัดสี และรองรับแรงกระแทกได้ดี
- พื้นรองเท้าสามารถป้องกันสารเคมีหรือน้ำมันบางชนิดตามที่กำหนดไว้ได้
- รองเท้าเซฟตี้ต้องผ่านการทดสอบของแรงบีบอัดได้
- รองเท้าสามารถต้านทานการขัดสีได้ดี โดยที่บริเวณส่วนบนของรองเท้าต้องมีความหนาเพียงพอตรงตามที่กำหนด
และมาตรฐานยุโรป EN345 ยังกำหนดให้ผู้ผลิตรองเท้าเซฟตี้ทุกราย จำเป็นต้องระบุอักษรย่อเพื่อบอกคุณสมบัติของรองเท้าเอาไว้ ดังนี้ SB - Safety Basic หมายความว่า รองเท้าเซฟตี้คู่นี้ตรงตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ - SBP - SB with pierce resistant midsole หมายความว่า รองเท้าเซฟตี้คู่นี้ตรงตามมาตรฐานที่กำหนดและสามารถป้องกันการแทงทะลุได้
- S1 - SB with anti - static sole and cushioned heel area หมายความว่า รองเท้าเซฟตี้คู่นี้ตรงตามที่มาตรฐานกำหนดและสามารถกันไฟฟ้าสถิตได้
- S1P - S1 with pierce resistant midsole รองเท้าเซฟตี้คู่นี้ตรงตามมาตรฐานที่กำหนด สามารถกันไฟฟ้าสถิต และป้องกันการแทงทะลุได้
- S2 - S2 with water resistant upper รองเท้าเซฟตี้คู่นี้ตรงตามมาตรฐานที่กำหนดและ สามารถกันไฟฟ้าสถิต รวมไปถึงกันน้ำหน้าบนได้
- S3 - S3 with pierce resistant midsole รองเท้าเซฟตี้คู่นี้ตรงตามมาตรฐานที่กำหนด สามารถกันไฟฟ้าสถิต ป้องกันการแทงทะลุ และส่วนบนของรองเท้าสามารถกันน้ำได้
รองเท้านิรภัยมาตรฐาน ANSIZ41.1
ข้อกำหนดของมาตรฐาน ANSIZ41.1 สำหรับรองเท้าเซฟตี้ มีดังนี้
- หัวรองเท้าเซฟตี้ต้องทนต่อแรงกระแทกและแรงบีบอัดได้
- บริเวณส่วนบนของรองเท้าต้องมีแผนกันกระแทกกระดูก เพื่อกันไม่ให้กระดูกหัก หากมีเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น ของหนักหล่นทับเท้า
- รองเท้าเซฟตี้ต้องสามารถกระจายไฟฟ้าได้ นั้นหมายความว่าไม่ใช่แค่กันไฟฟ้าสถิตหรือไฟดูดเท่านั้น แต่รองเท้าเซฟตี้ต้องสามารถกระจายไฟฟ้าสู่พื้นได้
- รองเท้าเซฟตี้ต้องกระจายไฟฟ้าสู่พื้นได้ดี เพื่อป้องกันไฟฟ้าสถิตสะสม ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอันตรายเมื่อเข้าใกล้กับวัตถุหรือสารระเบิด
- ต้องสามารถป้องกันไฟดูดได้
- นอกจากมาตรฐานที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้ว รองเท้าเซฟตี้ยังมีมาตรฐานอื่นๆ อีก ไม่ว่าจะเป็น มาตรฐาน EN ISO 20345 ที่นิยมใช้กันโลกทั่ว มาตรฐาน มอก. ที่ใช้ในประเทศไทย และมาตรฐาน JIS ที่ใช้ในประเทศญี่ปุ่น ทั้งนี้มาตรฐาน มอก. ในประเทศไทย จะอ้างอิงคุณสมบัติตามมาตรฐาน EN ISO 20345 ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเป็นหลัก
รองเท้าเซฟตี้ แต่ละรูปแบบต่างกันอย่างไร
ในปัจจุบันรองเท้าเซฟตี้ (Safety shoes)สามารถแบ่งออกเป็น 4 รูปแบบ ใหญ่ๆ ได้ดังนี้
- รองเท้าเซฟตี้แบบหุ้มข้อ ความพิเศษของข้อเท้ารุ่นนี้คือการข้อจะสูงขึ้นมา เหมาะสำหรับการใช้งานหนัก เช่น งานเจาะ งานเหล็ก และงานก่อนสร้าง เป็นต้น
- รองเท้าเซฟตี้แบบข้อสั้น เป็นรองเท้าที่เหมาะกับการใช้งานทั่วไป สามารถใช้งานได้ง่าย สวมใส่สบาย
- รองเท้าเซฟตี้ทรงสปอร์ต เป็นรองเท้าที่มีน้ำหนักเบา เหมาะกับการงานที่เน้นการเคลื่อนไหวความคล่องตัว เนื่องจากตัวรองเท้ามีน้ำหนักเบา
รองเท้าเซฟตี้เฉพาะทาง เป็นรองเท้าที่ผลิตมาเพื่ออุตสาหกรรมบางอย่างเฉพาะ เช่น รองเท้ากันไฟฟ้า รองเท้าป้องกันของเหลวและสารเคมีบางชนิด และ รองเท้า ESD เป็นต้น
สำหรับผู้ที่สนใจซื้อรองเท้าเซฟตี้ควรเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน ถ้าหากคุณไม่มั่นใจว่างานของคุณควรใช้รองเท้าเซฟตี้แบบใด สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 02-245-9560, 02-248-3087 เรามีทีมงานที่มีความรู้เกี่ยวกับสินค้าคอยให้คำปรึกษาคุณอยู่ตลอดเวลา
การวัดไซส์เทียบขนาดรองเท้าเซฟตี้
เพราะไซส์ที่พอดีเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม การสวมใส่รองเท้าเซฟตี้ที่มีขนาดพอดีเหมาะกับรูปทรงของเท้าจะช่วยป้องกันอันตรายที่เกิดจากอุบัติเหตุได้ดี และช่วยทำให้ผู้สวมใส่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมั่นใจและเต็มประสิทธิภาพ คุณสามารถวัดไซส์รองเท้าเซฟตี้ ได้ตามคำแนะนำต่อไปนี้
- วัดขนาดความยาวของเท้า ตั้งแต่จุดปลายเท้าไปถึงส้นเท้า
- วัดขนาดความกว้างของหน้าเท้า โดยเลือกจุดที่กว้างที่สุดของเท้า
- เทียบขนาดที่วัดได้ กับตารางไซส์ด้านบน เพื่อความสบายในการสวมใส่
-
9200 รองเท้าผ้าใบหัวเหล็ก รองเท้านิรภัย ไม่ลื่น ระบายอากาศSpecial Price ฿720.00 Regular Price ฿800.00
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-